Saturday, March 5, 2011

Malé, Maldives!!!


มาแล้วววววววววววว หลังจากดองบล็อกมาเป็นเดือนนนนน แย่มากกกกกกกก    สัญญาว่าจะไม่ทำ (ให้ถึงเดือน 555) อีกแล้วคร้าบบบบ

ตอนนี้นั่งเปื่อยอยู่แต่ในโรงแรมที่มัลดีฟส์ ไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันไรกะเค้าเลย แต่ว่ารูปที่ลงวันนี้ มาจากที่มามัลดีฟส์ครั้งแรกตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้ว แฮ่ๆ (รู้เลยว่าดองนานเป็นเดือน)

จริงๆมามัลดีฟส์ครั้งนี้ครั้งที่สามแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ออกไปเกาะกะเค้าซักที เพราะว่าจะไปเกาะแบบไป-กลับวันเดียวนี้อะต้องมีคนมาหารกันด้วยหลายๆคน เนื่องจากต้องเช่าเหมาเรือกันไป ไปคนเดียวไม่ด๊ายยย แพงโคดดด

ตอนมาครั้งแรก ที่ไม่ได้ไปเกาะก็เพราะไม่มีใครไปกะเราเนื่องจากลูกเรือคนอื่นเค้าเคยไปกันหมดแล้ว ครั้งที่สองที่มา ก็มีเพื่อนจากไฟลท์เดียวกันจะไปแค่คนเดียว แต่ก็มีลูกเรือไฟลท์ก่อนหน้าอีกสี่คนมาชวนให้หารไปด้วยกัน ซึ่งเป็นเกาะ Paradise ที่เราอยากไปที่สุด แต่เนื่องจากมีคนไปแค่หกคน พอหารกันออกมาก็เป็นเงิน 140 ดอลล่าห์ต่อคน ซึ่งมันก็ค่อนข้างแพงสวดยอดอยู่ ลูกเรือที่จะไปกะเรา ชีเลยเปลี่ยนใจไม่ไปและ ซึ่งมันก็แพงจิงๆอะ

และครั้งนี้ ครั้งที่สามแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปเกาะอยู่ดี แง๊ๆๆๆ เนื่องจากคนไปน้อยนิดเหมือนเดิม ก็เป็นอันอดไปอีกตามเคย แต่ใจนึงก็แอบอยากนอนอยู่โรงแรมอยู่แล้วคราวนี้ เนื่องจากเปื่อยรับประทาน 555 แต่ไม่เป็นไร ปลายเดือนนี้มีมัลดีฟส์อีกรอบ ขอให้ได้ไปเกาะซะทีเท้อออออ สาธู้........

เอ้า พล่ามซะยืดเชียววว มาดูรูปสีน้ำทะเลและท้องฟ้าที่นี่ดีกว่าาา
รอยต่อระหว่างน้ำลึกกะน้ำตื้น ทำให้ได้สีที่ตัดกันสวยมากๆ
เดินออกมาจากแอร์พอร์ตก็จะเจอทะเลแบบนี้เลย :))
เดินถ่ายรูปเล่นๆเพลินๆ


เนื่องจากว่าตอนที่มาครั้งแรก ถึงแม้ไม่ได้ไปเกาะก็ขอออกไปถ่ายรูปเล่นซะหน่อย เลยนั่งเรือฟรีของโรงแรมเข้าเกาะที่เป็นเมืองหลวงของมัลดีฟส์ชื่อว่ามาเล่ แต่ก็เป็นเกาะที่เล็กมากๆ ประมาณ 2 ตร.กม.เอง ประมาณว่าเดินเที่ยวได้รอบเกาะนั่นแหละ

นี่คือ Islamic Centre หรือมัสยิดกลางของเกาะ ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของเกาะเค้าเลย
สถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันนั่นแหละ แต่ว่าคืออะไรก็จำไม่ได้แล้วอ่า -*-

เดินย้อนมาทางท่าเรืออีกหน่อย ก็จะเจอกับตลาดปลาที่หน้าตาเป็นแบบนี้


ตลาดปลา ที่ฝั่งตรงข้ามจะมีเรือประมงจอดเต็มไปหมด
แล้วก็เอาปลามาวางขายกันสดๆที่นี่

คนก็จะมาเลือกซื้อกันไปแบบนี้

เรือประมงที่จอดเทียบท่าอยู่เต็มไปหมด เพราะว่าอาชีพหลักของประเทศนี้อันดับหนึ่งคือการท่องเที่ยวแล้ว อันดับสองคือประมงเนี่ยแหละ

เดินมาอีกนิดนึงก็จะเจอกับตลาดผลไม้ ตอนแรกเราก็วาดภาพไว้ซะเลิศหรู อุ้ย เดี๋ยวจะซื้อผลไม้นั่นนี่มาไว้กินที่โรงแรม แต่พอมาเจอตลาดของจริงแบบนี้ ขอบายค่าาาาา


ส่วนคนนี้คือคุณลุงที่ขายของอยู่ตลาดผลไม้ ซึ่งด้วยความสงสารลุง เลยอุดหนุนน้ำมะพร้าวลูกนี้ไปซะหนึ่งดอลล่าห์


ขอไปก่อนละกันนะคะ ตอนนี้เปื่อยมากมาย พรุ่งนี้ต้องทำไฟลท์กลับแต่เช้าเลย แต่อยากบอกว่าหนึ่งเดินที่หายไป มีอะไรรออัพอีกเพียบบบบ ไม่ว่าจะเป็นซูริค, เจนีวา, มิวนิค, และทุกที่หนาวม๊ากกก และเมื่อวานเพิ่งกลับมาจากลอนดอน ถึงได้เปื่อยกลับมาอย่างที่บอกอะค่ะ


No comments:

Post a Comment