Friday, February 18, 2011

ตะลุย Kuala Lumpur กับภารกิจพิชิต vincci ภาค 2

มาต่อภาค 2 กันเลยดีกว่าโนะ เม้าท์กะลังมันส์ 555

(ถ้าใครไม่ได้อ่านภาคหนึ่ง อ่านตรงนี้ได้ค่ะ)

คืนนั้นก็เป็นอันต้องกลับมาโรงแรมด้วยความผิดหวังและโมโหโทโสกะโชคชะตาของตัวเอง ทำม๊ายยยยยยย ทำมายยยยยย  (มันเว่อร์ไปมั้ยเนี่ย 555)

ก็เลยนอนพักผ่อนเอาแรงก่อนดีกว่า วันรุ่งขึ้นต้องทำกัวลา-ภูเก็ตต่อ เดี๋ยวกลับมาค่อยว่ากันอีกที

ตอนทำไฟลท์ภูเก็ตเนี่ยกะเตรียมพูดไทยเต็มที่ แบบว่า เฮ้ย ไฟลท์เข้าเมืองไทย ยังไงต้องมีคนไทยบ้างหละน่า แต่พอเอาเข้าจริงๆ ฝรั่งล้วนจ้าาาา คนไทยนี่แบบ น้อยมากๆ แทบไม่มีเลย เราคิดว่า 1) เส้นทางบินใหม่ คนเลยยังไม่ค่อยเต็ม 2) คนไปเที่ยวภูเก็ต ส่วนใหญ่ ฝรั่งมากกว่า

แต่สรุปว่าไฟลท์ที่ทำก็ราบรื่นดี เวลาบินแค่ชั่วโมงเดียวเอง แถมผู้โดยก็น่ารัก ไม่ค่อยขออะไรมาก เนื่องจากผู้โดยคงเหนื่อยแล้ว นั่งเครื่องมาจากยุโรปบ้าง อะไรบ้าง 5-6 ชม.เพื่อมาต่อเครื่องที่เมืองแขก นั่งมาจากเมื่องแขกอีกเจ็ดชม.กว่า รอคนมาต่อเครื่องเข้าภูเก็ตอีกชม.กว่า นั่งจากกัวลาเข้าภูเก็ตอีกชม.นึง คงนั่งมากันจนเมื่อยแน่ๆ หลายๆคน พอจะเข้าไปเสิร์ฟแซนด์วิชก็ไม่เอากันหลายคน คงกินมากันจนเต็มที่แล้ว 555 ไฟลท์ก็เลยสบายๆ เนื่องจากไฟลท์สั้นด้วย เราก็เลยทำแบบชิวๆ ไป-กลับนี่แป๊บเดียวก็เป็นอันกลับมาถึงโรงแรม

กลับมาถึงโรงแรมก็คิดต่อ เอาไงดีกะร้านรองเท้าดีฟระ -*- ไหนจะอยากกลับไปกินบะหมี่เป็ดที่ Bukit Bintang อีก (ครั้งที่แล้วที่มากัวลา ไปกินบะหมี่เป็ดกะพี่สาวคนนึง อร่อยม๊ากกกก เลยอยากกลับไปกินอีก)

อะ ให้ดูรูป จากที่ไปกินครั้งที่แล้ว
น่ากินมะล่าาา
เฮ้ยๆๆ วกกลับมาเข้าเรื่องเดิม ไปไกลและ

คือคืนนั้นก็ถามคนที่ร้านวินชี่นั่นนะแหละว่าร้านรองเท้าอะ มันปิดแล้วไปเปิดที่ไหนหรอ รู้มั้ยคะ พี่เค้าเลยบอกมาว่ามันไปเปิดสาขาใหม่ที่ Bukit Bintang เราก็แบบ ไอ้ดีมันก็ดีนะ อยู่ที่เดียวกะร้านบะหมี่เป็ด แต่แบบว่าใครที่เคยไปที่นั่นจะเข้าใจว่า ม๊ายยยยยยย หนูหาร้านไม่เจอแน่ๆๆๆ มันก็เหมือนสยามบ้านเราน่ะ กว้างใหญ่ม๊ากก ห้างเยอะม๊ากก ไอ้จะถามว่ามันอยู่ส่วนไหนของบูกิต บินตังก็เกรงว่าเค้าบอกมาแล้วเราก็คงหามันไม่เจออยู่ดีน่ะแหละ

ไม่เชื่อดู Bukit Bintung แบบรวมๆ
กว้างม๊ากกกกกกกกกกกกกกก

นั่งคิด นอนคิดอยู่พักนึงว่าแล้วตรูจะเอาไงดีฟระ ก็ปิ๊งไอเดียได้ว่า เปิดหาในเนตดีกว่า เสิร์ชดูกันเลยทีเดียวเชียวว่าร้านนี้มีสาขาที่ไหนบ้างในกัวลา เสิร์ชไปเสิร์ชมาก็เจอว่ามันมีอยู่สาขานึงที่ห้าง Pavillion ซึ่งห้างนี้มันอยู่ใกล้ๆกะ Bukit Bintung น่ะแหละ (เพราะครั้งที่แล้วก็ไปหาไรกินที่ห้างนี้มา จำได้ว่าเดินไปอีกนิดหน่อยเอง แถมมีชานมไข่มุกด้วยที่นี่) เมื่อรู้ดังนั้นก็แอบแสยะยิ้มอย่างสะใจ หุหุหุ เสร็จตู ได้ทั้งรองเท้า ได้ทั้งบะหมี่เป็ด ทั้งชานมไข่มุกเลยทีนี้ วะฮะฮ่าๆๆๆ
|
|
|
ได้เวลาออกเดินทาง
|
|
|
ถึงแล้นนน ^^

สถานี Bukit Bintung

ถึงแล้วก็ไปกินบะหมี่เป็ดก่อนโลดดดด อยากกินม๊ากกก
เป็นไง น่ากินม๊าย

ไหนๆก็ได้ออกจากเมืองแขกแล้ว จะไม่หาหมูกินซะหน่อยก็กลัวจะเสียโอกาสอันงาม เลยสั่งมันมาทั้งหมู ทั้งเป็ด แถมบะหมี่อีกสอง และน้ำแตงโมปั่น

(ไม่อยากบอกว่ามาคนเดียวเลย สั่งเหมือนไม่เคยกินไรมาก่อนในชีวิต 555) แต่ที่ไม่อยากบอกมากไปกว่านั้นก็คือ กินหมดค่ะ -*-

หลังจากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปห้าง Pavillion ข้ามจากฝั่งนั้นมา ก็จะเจอแบบนี้ แล้วเราก็เห็น Pavillion อยู่ลิบๆแล้ว ตึกสูงๆน่ะแหละ
เย้ๆๆ ใกล้แล้วๆ ^^

แล้วขณะที่เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ ก็เดินไปจ๊ะเอ๋กับห้างนี้!!!!

กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!
ไหนเดินไปอีกนิดให้แน่ใจซิ

อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!

แถมป้ายเซลล์ด้วย!!! ตายๆๆๆๆๆ ตายแน่งานนี้ เป๋าแฟ่บแน่ๆ 555

ร้านก็ใหญ่ใช้ได้ ไม่ได้ใหญ่มากมาย แต่ว่าใหญ่กว่าตอนอยู่ในห้างอะนะ ทำให้มีการจักแยกรองเท้า กระเป๋า และ accessories เป็นสัดส่วน เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปในร้านมาให้ดูง่ะ ไม่กล้า

ก็ใช้เวลาเดินเลือกอย่างตื่นตาตื่นใจมาก 555 แต่ว่าหลายๆคู่ที่ชอบแต่ไซส์หมดแล้ว ทำให้ได้สอยมาแค่สองคู่เอง แต่ว่าเป็นรองเท้าแบบที่ชอบมาก นั่นคือส้นเตารีด และปกติเป็นคนชอบใส่ส้นสูง (ถึงสูงมาก) แต่ว่าหลังๆมานี่ทนใส่ส้นสูงที่สูง สวยแต่ทรมานไม่ไหวแล้ว จริงบอกลาส้นสูงกันชั่วคราว และหันมาปลื้มส้นเตารีดแทน เนี่องจางมันสูงแต่ไม่ทรมานน่ะเอง ^^

แถมแว่นตาอีกนิดหน่อย อันละสองร้อยกว่าบาทเอง ถูกโคดดดดดๆ

 หลังจากนั้นก็เดินต่อไปยัง Pavillion ระหว่างทางก็เจอกับการจัดกระต่ายน่ารักๆ ต้อนรับตรุษจีน และปีกระต่ายเลยเดินถ่ายรูปเล่นๆไปเรื่อยๆ


 จนมาถึง Pavillion จนได้





 ก็เป็นอันจบ (แบบดื้อๆ) เนอะ